เรื่องราวของเทพนิยายเรื่องหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าใครหลาย ๆ คนก็คงต้องเคยฟัง หรือ เคยดูกันมาบ้างแล้ว ส่วนตัวปุณปั้นเองนั้นชื่นชอบเรื่องราวของซินเดอเรลล่าเอามาก ๆ จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ เรื่องที่ได้ดูและจำได้แบบจำขึ้นใจเลยคือเรื่องนี้เท่านั้น และตอนนั้นที่ได้ดู ก็รู้สึกว่าเหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในความฝันและโลกของจินตนาการ ด้วยภาพของการ์ตูนในสมัยนั้น ร่วมกับเพลงประกอบก็ไพเราะเสียมาก ๆ โดยเฉพาะเพลง “So This is love” ซึ่งถือว่าเป็นเพลงโปรดของปุณปั้นเลยทีเดียว ขนาดตอนนี้เป็นคุณแม่แล้วก็ยังชอบ ร้องเพลงนี้อยู่บ่อย ๆ
เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะวันนี้ที่เกริ่น ๆ เรื่องนี้เพราะจะมาแนะนำหนังเก่าเรื่องหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องนึกถึงค่ะ เรื่องนั้นก็คือเรื่อง “a Cinderella story” หรือในชื่อไทยคือ “นางสาวซินเดอเรล่า….มือถือสื่อรักกิ๊ง” ถือเป็นหนังที่ก็เก่ามากพอสมควรตามแบบฉบับของสาวยุค 90s อย่างเรา พอมาย้อนกลับไปดูก็ทำให้เหมือนย้อนวัยเลย ไม่ว่าจะ มือถือรุ่นเก่า เอย คอมพิวเตอร์รุ่นเก่า แนวเพลง ต้องบอกก่อนว่าเป็นหนังที่หาดูยากเหมือนกันในตอนนี้ แต่ก็มีการเอากลับมาลงฉายอีกครั้งใน Netflix เพื่อน ๆ สามารถหาดูได้นะคะ
โดยเนื้อเรื่องย่อนั้นมีเค้าโครงมาจาก เรื่องราวของเทพนิยายคลาสสิกที่กลับตาละปัดแต่แฝงไปด้วยความสนุกสนาน เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับนักเรียนสาวมัธยมปลาย แซม มอนโกเมอรี่ (ฮิลลารี่ ดัฟฟ์) ซึ่งเป็นเด็กสาวที่อาศัยอยู่กับคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว จนกระทั่งพ่อของเธอได้แต่งงานใหม่กับ ฟีโอน่า (เจนนิเฟอร์ คูลิดจ์) และสองน้องสาวตัวร้ายต่างมารดา ที่ปฏิบัติกับเธอเหมือนกับสาวใช้มากกว่าคนในครอบครัว
จากนั้นไม่นานพ่อของเธอก็ได้เสียชีวิต ส่งผลให้เธอเสียใจมากเพราะมีเพียงแค่พ่อคนเดียวที่เข้าใจเธอ และพ่อก็เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเธอ เมื่อเธอเติบโตขึ้นภายใต้การเลี้ยงดูของแม่เลี้ยง ซึ่งพ่อของเธอไม่ได้เขียนพินัยกรรมอะไรทิ้งไว้ให้เลย ทรัพย์สินทั้งหมดจึงตกเป็นของแม่เลี้ยง ซึ่งรวมทั้งร้านอาหารของเธอกับพ่อที่เธอรัก จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นลูกจ้างคนหนึ่งในร้านอาหารของตัวเอง และเธอมักจะโดนสั่งให้ทำงานทุกอย่างภายในบ้าน และด้วยความที่เธอมุ่งมั่นที่จะต้องเข้าเรียนที่ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันให้ได้ แต่เธอกลับถูกกีดกันโดยแม่เลี้ยงของเธอตลอดเวลา
Advertisementเมื่อเวลาที่เธอไม่สบายใจเธอมักจะมีเพื่อนทางอินเทอร์เน็ตของเธอที่รู้จักกันผ่านแชทของเธอ ซึ่งเธอและเขามักจะเปิดใจพูดเรื่องความเศร้าและความอึดอัดในใจของกันและกันอยู่เสมอ เหมือนกับว่าพวกเขาเป็น Safe Zone ของกันและกัน โดยที่พวกเขายังไม่เคยได้พบหน้ากันเลยสักครั้ง เขาจึงเปรียบเสมือนเป็นเจ้าชายลึกลับของเธอ แต่ดันกลับกลายเป็นเพื่อนร่วมชั้น อย่าง ออสติน อเมส (แชด ไมเคิล เมอร์เรย์) ควอเตอร์แบคสุดหล่อ แถมยังเป็นหนุ่มสุดฮ็อตอีกด้วย
ชีวิตไฮสคูลของเธอไปได้ไม่สวยนัก เพราะเธอจะถูกกลั่นแกล้งเสมอ มีเพียงเพื่อนสนิทคนเดียวที่จะคอยอยู่เคียงข้าง แต่สำหรับแซมแล้วนั้นก็เพียงพอ โรงเรียนของแซมได้จัดงานพรอมขึ้นทำให้เธอตื่นเต้น และอยากที่จะไปงานนี้เพราะเธอได้นัดกับเจ้าชายลึกลับของเธอไว้ เพื่อที่จะได้เจอหน้ากันจริงๆ แต่แล้วเรื่องก็ไม่เป็นอย่างที่เธอหวังไว้ จนทำให้เธอทำมือถือของเธอตกไว้ และนั่นก็เป็นสิ่งเดียวที่เจ้าชายของเธอเก็บได้และใช้ตามหาตัวเธอในเวลาต่อมา
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร แซมจะสมหวังในเรื่องของความรักและการเข้ามหาวิทยาลัยที่เธอวาดฝันไว้ไหม และเธอจะมีความกล้าหาญที่จะต่อกรกับแม่เลี้ยงของเธอหรือไม่ เพื่อน ๆ สามารถหาดูเรื่อง “A Cinderella Story” ได้ทาง Netflix มาลุ้นกันดูว่าตอนจบของเรื่องจะเป็นอย่างไร เป็นหนังแนววัยรุ่นไฮสคูลที่บอกเลยว่าดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ที่แม้ว่าจะเป็นหนังที่ทำตามสูตรสำเร็จ แต่ก็ทำให้เราได้เห็นความรัก และความกล้าหาญในมุมต่างๆ ผ่านตัวละครในหนังเรื่องนี้ ลองไปติดตามชมกันดูนะคะ