ภาวะหมดไฟ

สวัสดีค่ะทุกคนช่วงนี้เป็นยังไงกันบ้างคะ ในสถานการณ์แบบนี้ต้องยอมรับว่าอาจทำให้หลาย ๆ คนมีภาวะความเครียด หรือ หลาย ๆ คนอาจมีภาวะหมดไฟ ปุณปั้นเองก็เป็นอีกหนึ่งคนค่ะ ที่ตอนนี้กำลังตกอยู่ภาวะหมดไฟ แต่ไม่ได้แปลว่าหมดหวังนะทุกคน

ภาวะหมดไฟ
ภาวะหมดไฟใคร ๆ ก็เป็นได้ เพราะอาจจะด้วยสาเหตุการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจที่เกิดจากความเครียด จนบางครั้ง รู้สึกเหนื่อยล้าทาง อารมณ์อ่อนไหว เกิดความเบื่อหน่าย จะหยิบจับทำอะไรก็รู้สึกสูญเสียพลังงานทางด้านจิตใจและกำลังกาย มองงานหรืออะไรก็ดูแล้วจะมีแต่ในเชิงลบ ขาดความสุข ขาดความสนุกในการทำงาน
 
จากเมื่อก่อนมีความสุขและสนุกกับมัน แต่ตอนนี้รู้สึกเบื่อหน่ายหมดกำลังใจจะทำต่อก็หมดแรงจูงใจในการทำ ในช่วงนี้สถานการณ์แบบนี้แอดมินเลยถือโอกาสมาแชร์ประสบการณ์ให้กับทุกคน ที่ตอนนี้เริ่มมีอาการภาวะหมดไฟ ว่าเราควรจะจัดการกับมันยังไง
Advertisement

สิ่งแรกต้องขอบอกก่อนว่า ในช่วงเวลาที่จิตใจของคนเราอ่อนลง จะทำอะไร มองไปไหนก็จะมีแต่อารมณ์อ่อนไหว คิดแต่ในทางลบ เพราะฉะนั้นเราต้องจัดการกับอารมณ์ทางลบของเราก่อน โดยพยายามมองหาอะไรที่เป็นแง่บวก หากเราเอาแต่คิดในแง่ลบโดยปล่อยให้อารมณ์นำ มันก็จะยากต่อการเติมกำลังใจให้ตัวเอง เราจะต้องปรับอารมณ์ ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ให้ไม่คิดทุกอย่างเป็นลบไปหมด เพราะบางอย่างแล้วจริง ๆ ไม่ได้เป็นในแบบที่เราคิด เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญ คือเราต้องจัดการกับอารมณ์ของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก

ประการที่สอง ลองหาแรงบันดาลใจหรือแรงจูงใจให้กับตัวเอง เติมไฟ ชาร์จไฟให้ตัวเอง เหมือนการเติมไฟให้กับตัวเราเอง เช่น อาจจะหาหนังสือ หรืออ่านคำคมข้อคิดต่าง ๆ มาเติมและให้กำลังใจกับตัวเอง หรือใครที่ชอบการพบปะพูดคุย ก็สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่น ๆ ดู

บางทีเราอาจจะได้ความคิดหรือแง่มุมใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นด้วย แต่การแลกเปลี่ยนความคิดนั้น เราเองก็ควรจะเลือกแนวความคิด ที่ไม่คิดลบจนเกินไปเพราะมันจะทำให้เรากลับไปคิดติดลบมากกว่าเดิม เลือกฟังทั้งสิ่งที่ดี และรับฟังในสิ่งที่ไม่ดีให้น้อย เพื่อนำมาปรับเป็นประสบการณ์และยังสามารถนำไปต่อยอดให้กับชีวิตของเราด้วย

ประการที่สาม คือการบำบัดด้วยเสียงเพลง การบำบัดด้วยเสียงเพลงก็คือใช้เสียงดนตรีให้เกิดกำลังใจหรือช่วยผ่อนคลายอารมณ์ การบำบัดด้วยเสียงดนตรีนั้นมีหลากหลายแบบ เช่น การฟังดนตรี การร้องเพลง การเล่นดนตรี หรือการเคลื่อนไหวตามจังหวะดนตรี ก็สามารถทำให้เราผ่อนคลายได้

วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเราได้ อย่างตัวปุณปั้นเองก็ชื่นชอบการฟังเพลง ดังนั้นปุณปั้นก็จะเปิดเพลงที่ฟังสบาย ๆ เบา ๆ และอีกวิธีหนึ่งที่แอดมินชื่นชอบก็คือการเต้นเข้าจังหวะกับเพลง ซึ่งนับว่าเป็นอีกวิธีที่ทำให้เราได้ผ่อนคลายและถือว่าเป็นการออกกำลังไปในตัวด้วยค่ะ ใครชอบวิธีไหนก็ลองเลือกเอาไปปรับใช้กันนะคะ

ประการสุดท้าย คือการเล่นเกมส์ การเติมไฟด้วยการเล่นเกมส์ก็ถือเป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่สามารถทำให้ผ่อนคลายได้ เพราะเกมส์มีให้เราเลือกเล่นหลากหลายรูปแบบ โดยตั้งเป้าหมายว่าเล่นเพื่อสนุก อย่าเล่นเพื่อที่จะต้องชนะอย่างเดียวค่ะ เพราะไม่อย่างนั้นมันก็จะกลายเป็นว่าเล่นเพื่อสร้างความเครียดไปเสียอย่างงั้น แทนที่จะเล่นเพื่อความสนุกและเพื่อผ่อนคลายกลายเป็นว่าเล่นแล้วมานั่งเครียด ก็ไม่โอเคนะคะทุกคน

ดังนั้น ใครที่คิดว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในภาวะหมดไฟ ก็สามารถนำวิธีที่แอดมินใช้ไปปรับใช้ได้นะคะ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ การเติมกำลังใจให้กับตัวเราเอง มั่นเติมพลังใจให้กับตัวเอง มั่นเติมไฟให้ตัวเองถึงแม้ว่ามันอาจจะมีช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่าไม่มีกำลังใจหมดไฟ อ่อนล้ากับทุกสิ่งอย่าง ไม่มีใครสามารถช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง

ก็เหมือนกับว่าเรานั่งอยู่ในเรือลำหนึ่ง แล้วเจอพายุอยู่ 2 ลูกที่กำลังพัดแรงอยู่ตรงหน้าเราจะเลือกอยู่นิ่ง ๆ ในเรือ หรือจะเลือกที่จะฝ่าข้ามผ่านพายุนั้นมาถึง แม้ว่ามันอาจจะมีบาดแผลหรืออาจจะทำให้เรือของเราผุพัง แต่อีกฝากฝั่งเรากับพบเจอกับท้องฟ้าที่สดใส ถึงแม้ว่าวันข้างหน้าอาจจะเกิดพายุขึ้นอีก แต่อย่างน้อยเราก็เคยผ่านพายุลูกนั้นมาแล้ว ดีกว่าที่เราจะมานั่งรออยู่บนเรือเฉย ๆ เพื่อให้พายุลูกนั้นสงบลง หรือรอให้ใครมาช่วย

เพราะแอดจะบอกไว้เลยว่ามันไม่มีใครจะสามารถช่วยเราได้ตลอด หากตัวเราเองยังไม่ช่วยตัวเอง เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมั่นให้กำลังใจตัวเอง และสู้ ๆ กันต่อไปค่ะทุกคน แล้วเราจะผ่านเรื่องราวอุปสรรคต่าง ๆ นั้นไปได้ เป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ คนนะคะ