เราทุก ๆ คนต่างมีแสงสว่างเป็นของตัวเองเพียงต้องหามันให้เจอ

บทความ โดย Dok Talom
หนังสือฝุ่น ๆ กันคุณวันพฤหัสฯ วันนี้มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ได้มาแบบงง ๆ จากคำแนะนำของคนขายหนังสือ ว่าเจ้าหนังสือเล่มนี้ดีนะ เป็น 1 คนเขียน 1 คนวาด แต่ตอนนั้นไม่ได้เอะใจอะไรกับประโยคที่คนขายกล่าวไว้ เพราะแอบหลงรักหลายเส้นของภาพประกอบในเรื่องมาสักพักแล้ว เนื่องจากเคยได้รับที่คั้นหนังสือจากภาพปกนี่แหละมาก่อนหน้านี้ มันเป็นภาพที่ดูอบอุ่นปนเหงาและให้ความรู้สึกละมุนใจดี ดังนั้น เลยตัดสินใจพาหนังสือเล่มนี้กลับมาด้วยจากงานหนังสือเชียงใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อได้เปิดอ่านและทำความรู้จักกันเท่านั้น กลับพบว่า นี่คือหนังสือที่เขียนมาเพื่อฉันเลยล่ะ ^ ^
Advertisement
“Dawn ชั่ววูปเข้าใจชีวิตเหมือนแสงที่ริมขอบฟ้า” เป็นหนังสือของสำนักพิมพ์ Full stop ซึ่งต้องขอชื่นชมการทำหนังสือของสำนักพิมพ์นี้เลย เพราะใส่ใจทุกรายละเอียดจริง ๆ อย่างเล่มนี้ก็ใช้เทคนิคการเย็บปกที่เปลือยให้เห็นด้านใน ซึ่งฉันชอบวิธีการนี้มาก มันทำให้เรากางหนังสือได้เต็มทีโดยไม่ต้องกลัวจะทำให้หน้ากระดาษหลุดออกมา
โดยหนังสือของสำนักพิมพ์ทุกเล่มนั้น เปรียบเสมือนผลงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ควรค่าแก่การเก็บสะสม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา ภาพประกอบ รูปเล่ม หรือแม้แต่เนื้อกระดาษที่ใช้ก็ให้ความสำคัญ เมื่อทุกอย่างรวมกันมันจึงเป็นหนังสือที่เห็นแล้วรู้ทันทีว่าทุก ๆ คนที่มีส่วนในการทำหนังสือเขาตั้งใจทำกันจริง ๆ และเราสัมผัสถึงมันได้ ผ่านหนังสือที่อยู่ตรงหน้าขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่มีส่วนร่วมกันสร้างหนังสือดี ๆ ให้คนอ่านกันนะคะ

“รักตัวเองให้เป็น” ประโยคที่ใครหลาย ๆ คนอาจเคยได้ยิน หรือมีคนเคยบอกเราบ่อย ๆ ซึ่งบางทีก็อยากจะเถียงคนที่บอกนะว่า จะบ้าเหรอใครบ้างไม่รักตัวเอง??? แต่เมื่อชีวิตผ่านเรื่องราวมากมายเข้ามาเราจะค่อย ๆ เรียนรู้และเข้าใจความหมายของประโยคนี้ “รักตัวเองให้เป็น” ซึ่งหนังสือเล่มนี้จะพาเราไปเข้าใจประโยคนี้ให้ชัดเจนขึ้น
หนังสือเล่มนี้มีผู้เขียนคือ คุณกันตพร สวนศิลป์พงศ์ เธอเป็นอดีตผู้ช่วยบรรณาธิการบริหารนิตยสาร a day ซึ่งตอนนี้เธอทำงานเกี่ยวกับที่ปรึกษาเชิงจิตวิทยา งานเขียนของเธอจึงเป็นการเยียวยาหัวใจคนอ่านไปด้วย ส่วนผู้วาดภาพประกอบเรื่องนี้คือ คุณ Summer นักวาดภาพสมัครเล่น (ที่ไม่เล่นนะ) เขาหลงไหลการภาพวาดด้วยสีไม้ จากพื้นฐานที่เคยเป็นสถาปนิกมาก่อน ลายเส้นของเขาจึงลงรายละเอียดได้อย่างชัดเจนและตรงใจคนดูสุด ๆ
ดังนั้นเมื่อสองคนนี้มาเจอกัน หนังสือเล่มนี้จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และสื่อถึงคนอ่านอย่างเราได้อย่างชัดเจน จริง ๆ มีอีกเล่มก่อนหน้าอีกหนึ่งเล่ม คือ “Magic Moment ความงดงามในเสี้ยววินาที” ขอฉันไปหามาอ่านก่อนนะจะมาชวนอ่านกันอีกทีจ้า

หนังสือเล่มนี้เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการกำลังใจ หรือผู้ที่กำลังหลงทางและหาแสงสว่างของตัวเองไม่เจอเมื่ออ่านแล้วจะเข้าใจความหมายของการ การรักตัวเองคืออะไร การเผชิญหน้ากับความโดดเดียวอย่างกล้าหาญ และสิ่งสำคัญคือ เยียวยารักษาตัวเอง คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราก้าวผ่านวันคืนที่โดดเดียวและแสนเศร้านี้ได้ เพราะทุก ๆ คนนั้นมีแสงสว่างในตัวเอง เราจึงต้องหามันให้เจอและหนังสือเล่มนี้จะช่วยหาคำตอบให้คุณได้ ลองไปหาอ่านกันนะคะ
