[ชวนอ่าน] เมื่อตัวเราเล็กลงความสุขก็ใหญ่ขึ้น

เพียงแค่ปรับใจให้เล็กลงเราจะมองเห็นความสุขได้ชัดเจนขึ้น

บทความ โดย Dok Talom

หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้มีหนังสือที่อ่านง่ายสบาย ๆ เหมาะกับช่วงเวลาที่เราไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือมากนัก เหมือนฉันในช่วงนี้ซึ่งก็ไม่อยากให้ตัวเองห่างหายไปกับโลกของหนังสือจนเกินไปเพราะกองดองนั้น มันก็แอบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ช่วงนี้เลยได้แต่หยิบหนังสือที่อ่านง่ายสบาย ๆ แบบ 1-2 ชั่วโมงจบเล่ม และหนังสือเล่มนี้ก็อ่านเพลินมากแป๊บ ๆ ก็จบเล่ม แม้จะอ่านง่ายแต่ก็ได้อะไรจากการอ่านหนังสือเล่มนี้เยอะเลยนะ

(การนำตุ๊กตาจิ๋วมาถ่ายทอดเรื่องราวพร้อมอธิบายความหมายทำให้การอ่านหนังสือเป็นเรื่องสนุกขึ้น)

เมื่อตัวเราเล็กลงความสุขก็ใหญ่ขึ้น เป็นหนังสือที่เหมือนได้พาเราไปชมแกลเลอรี่ภาพถ่ายพร้อมเข้าใจอารมณ์ของถาพถ่ายนั้น ๆ โดยผ่านมุมมองของ ผศ.กิตติชัย เกษมศานติ์ เจ้าของเพจ BigBangkokProject ที่นำเสนอมุมมองในกรุงเทพฯ ในแบบฉบับที่แตกต่างออกไป ซึ่งในหนังสือเล่มนี้จะนำเสนอผ่านตุ๊กตาตัวจิ๋วแสนน่ารักพร้อมฉากหลังที่คุ้นตาแต่กลับให้มุมมองที่เปลี่ยนไป

หนังสือเล่มนี้พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Springbooks อีกหนึ่งในสำนักพิมพ์คุณภาพที่ฉันตั้งใจจะตามเก็บและอ่าน (หนังสือน่าอ่านที่ชาตินี้เราจะอ่านกันหมดมั้ยหนอ) เล่มนี้ราคาอยู่ที่ 189 บาท แต่ฉันได้มาตอนไปงานหนังสือเมื่อปีที่แล้วในราคาน่ารักเพราะเป็นหนังสือเก่าพิมพ์เมื่อครั้งแรกเมื่อปี 2557 ยังไงลองหาดูตามงานหนังสือหรือร้านขายหนังสือมือสองหรือในกลุ่มกันนะคะ

Advertisement
(เพจ BigBangkok กรุงเทพเมืองใหญ่ https://www.facebook.com/BigBangkokProject ไปกดติดตามกันได้นะคะ)

ว่ากันว่า มุมมองของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลา เช่นเมื่อตอนเรายังเป็นเด็กเราอยากจะโตเป็นผู้ใหญ่ เพื่อจะได้มีอิสรภาพในการคิดตัดสินใจหรือได้ไปเที่ยวเล่นได้อย่างใจ แต่พอเราเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่เรากลับอยากกลับไปเป็นเด็ก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีพื้นที่ที่ปลอดภัยมากกว่า และฉันคิดว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะกับผู้ใหญ่ที่อยากกลับไปเป็นเด็กทุกคน แม้ในความเป็นจริงเราคงไม่สามารถย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้ง แต่หนังสือเล่มนี้จะทำให้เราสามารถย้อนกลับไปเห็นมุมมองตอนเรายังเป็นคนตัวเล็ก ๆ ได้อีกครั้ง เพื่อที่จะทำให้เราตั้งคำถามว่า เราทำอะไรหล่นหายไปกับกาลเวลาที่ผ่านมาหรือไม่

(หากเราทุกคนไม่ยอมหมดหวัง ความหวังก็จะยังคงอยู่ ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ต่อสู้เพื่อให้ความหวังของใครหลาย ๆ คนยังคงอยู่)

เนื้อหาภายในเล่มจะแบ่งไว้เป็นหมวดหมู่ ความสุข การเดินทาง ความฝัน ความหวัง ซึ่งแต่ละบท ผู้เขียนได้พาเราเข้าไปทำความเข้าใจมุมมองของการเป็นคนตัวเล็ก ๆ ที่แม้จะเป็นสถานการณ์หรือสถานที่ ๆ เดียวกัน แต่หากเรามองมุมที่แตกต่างก็จะทำให้โลกของเรานั้นน่าอยู่ขึ้นเยอะ ยกตัวอย่างเช่น มุมมองเรื่องดอกไม้ที่ผู้เขียนเปรียบว่าเหมือนความสุข ความหวัง ความสำเร็จ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นผู้คนต่างคาดหวังให้มันเบ่งบานตลอดไป แต่ทุกสิ่งที่ว่ามันก็เหมือนดั่งดอกไม้ที่มีวันโรยราไปตามวันเวลา เพียงแต่เราต้องไม่ลืมไปว่า “ถึงแม้ดอกไม้ในครั้งนี้จะร่วงหล่นไป แต่ต้นไม้และเมล็ดพันธุ์ยังคงอยู่ เพียงแต่เราอาจลืมไปว่า ดอกไม้นั้นไม่ได้หายไปไหน แค่รอเวลาผลิบานอีกครั้ง”

(ความสุขไม่ได้หาย…แค่รอวันผลิบาน)

กาลครั้งหนึ่งความสุขเล็ก ๆ ของฉันคือการถ่ายรูปในสวนรอบ ๆ บ้าน แต่พอชีวิตต้องรับผิดชอบอะไรเยอะขึ้น การเติบโตเป็นผู้ใหญ่บางครั้งก็ทำให้เราหลงลืมความสุขเล็ก ๆ เหล่านั้น และหนังสือเล่มนี้จะปัดฝุ่นให้ความสุข ความฝัน ความหวังเหล่านั้นกลับมาชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ยังไงลองหามาอ่านกันนะคะ ขอให้ทุกท่านเจอสิ่งที่ทำหล่นหายไปค่ะ

(ความสุขเล็กๆ จากสิ่งเล็กๆ ที่ฉันทำหล่นหายไป)