[ชวนอ่าน] ทำอะไรเล็ก ๆ ง่าย ๆ ก็มีความสุขได้ 

เพราะความสุขอาจเป็นเรื่องใกล้ตัวใกล้ใจกว่าที่เราคิด เล็ก ๆ ง่าย ๆ ก็มีความสุขได้

ชวนอ่าน

บทความ โดย Dok Talom

หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้จะมาแนะนำหนังสือเก่าเก็บที่ได้มาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว แต่กว่าจะอ่านจบก็ไม่กี่วันมานี่เอง ไม่ใช่ว่าหนังสือไม่น่าสนใจหรือไม่สนุกนะ แต่เป็นหนังสือที่อ่านได้เรื่อย ๆ เพราะเป็นหนังสือที่บันทึกการเดินทางของนักเขียน คุณโหน่ง วงศ์ทะนง ชัยณรงค์สิงห์ ซึ่งเป็นนักเขียนในตำนานแห่งสำนักพิมพ์ a book สำนักพิมพ์ที่นักอ่านรุ่น ๆ ฉันต่างรู้จักกันดีและทุกเล่มของสำนักพิมพ์ล้วนมีคุณภาพควรค่าแก่การเก็บให้ครบทุกเล่มจริง ๆ นะ

Advertisement
ชวนอ่าน
(คำโปรยปกหลังที่ชวนให้เราอยากหาคำตอบของความสุข)

หนังสือเล่มนี้เป็นการบันทึกการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นของคุณโหน่งและหญิงสาวของเขา (ชอบที่เขาเรียกเธอว่าหญิงสาวของผม) คุณปิ๋มซัง ซึ่งเป็นแฟนซีรีส์ stay ซากะ…ฉันจะคิดถึงเธอ” และซีรีส์เรื่องนี้เองที่ทำให้ฉันรู้จักซากะเป็นครั้งแรกเช่นกัน ในตอนนั้นยังไม่เคยได้เดินทางไปญี่ปุ่นแต่แอบมีความฝันเล็ก ๆ เกิดขึ้นว่า ฉันจะต้องไปเยือนให้ได้เลย แม้การเดินทางไปญี่ปุ่นของฉันสองครั้งยังคงวนเวียนอยู่แถบโตเกียวแต่ซากะเป็นหนึ่งในเมืองที่ฉันต้องไปหากมีโอกาสฉันจะต้องไปเที่ยวบ้านของคุณพี่หมี (ซันนี่) ให้ได้  ^ ^ (รีบ ๆ เปิดประเทศเร็ว ๆ น้า)

(ซีรีส์ Stay ซากะ ฉันจะคิดถึงเธอ ทำให้ฉันรู้จักจังหวัดซากะและอยากตามรอยซีรีส์เรื่องนี้จริง ๆ)

ในเล่มนี้คุณโหน่งจะพาเราค่อย ๆ ทำความรู้จักกับจังหวัดซากะ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในภูมิภาคคิวชูหรือทางใต้ของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ส่วนใหญ่คนจะรู้จักซากะผ่าน เทศกาลบอลลูนนานาชาติซากะ (Saga International Balloon Festa) ที่มีภาพบอลลูนอยู่เต็มท้องฟ้า แต่ในจังหวัดนี้มีอะไรให้เราค้นหาอีกเยอะมาก และเราจะได้รู้จักซากะผ่านอีกมุมมองของคุณโหน่งและผู้หญิงของเธอ

(แต่ล่ะบทจะพาเราไปรู้จักผู้คนและสถานที่ที่น่าประทับใจ)

นอกจากเราจะได้รู้จักสถานที่ในจังหวัดซากะแล้วหนังสือเล่มนี้จะพาเราไปรู้จักผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจริง ๆ แล้วผู้คนเหล่านั้นแหละที่ทำให้เราอยากไปสัมผัสซากะจริง ๆ เพราะผู้คนที่คุณโหน่งไปพบเจอมา แต่ล่ะคนมีแนวคิดที่น่าชื่นชม ยกตัวอย่างเช่น คุณเรียวตะที่เลือกกลับมาอยู่ประเทศญี่ปุ่นหลังจากทำงานที่ไทยมาหลายปี เพราะอยากมาใช้ชีวิตที่ชนบทซึ่งสวนทางกลับคนหนุ่มสาวในประเทศมาก และการตัดสินใจนี้เองที่ทำให้เขามีความสุขจากชีวิตประจำวัน เพราะได้อยู่ในพื้นที่ที่อากาศดี ผู้คนก็ใจดี แถมยังไม่ต้องหัวเสียเรื่องรถติดในเมืองอีกด้วย ชีวิตชนบทใครว่าต้องรอให้ถึงกับวัยเกษียณฉันว่าวัยทำงานนี้แหละที่ต้องเก็บเกี่ยวกันให้พอ

(คุณเรียวตะหนุ่มญี่ปุ่นที่ทำให้เรารู้ว่า “ชีวิตเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงและโยกย้ายได้”)

ชอบประโยคหนึ่งในหนังสือที่คุณโหน่งยกมา เป็นคำพูดของ อัลแบต์ กามูส์ นักเขียนชาวฝรั่งเศลซึ่งกล่าวไว้ว่า “ความสุขแห่งชีวิตเกิดได้จาก 4 อย่างนี้ คือ ได้อยู่ในที่อากาศปลอดโปร่ง พ้นจากความทะเยอทะยาน ทำงานสร้างสรรค์ และรักใครสักคน” พอได้อ่านประโยคนี้ก็ทำให้คิดได้ว่า บางทีสิ่งที่เรียกว่าความสุขอาจเป็นสิ่งที่เรียบง่าย ไม่ต้องยิ่งใหญ่ ไม่ต้องขนขวาย เพียงใช้ใจตามหามัน และบางทีมันอาจซ่อนอยู่ใกล้ ๆ ตัวเราโดยที่เราไม่รู้ตัว ยังไงลองไปหามาอ่านกันได้น้า

^_^