[ชวนอ่าน] คนที่เราควรใจด้วยที่สุดก็คือตัวเราเอง

บทความ โดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้ จะพาไปทำความรู้จักกับคำว่า “รักตัวเอง” ผ่านหนังสือที่ชื่อว่า “คนที่เราควรใจดีด้วยที่สุดก็คือตัวเราเอง” หนังสือเล่มนี้เห็นครั้งแรกโดนสะกดทันทีที่ภาพประกอบหนังสือและชื่อหนังสือ ส่วนคนเขียนสารภาพเลยว่ายังไม่เคยอ่านผลงานของนักเขียนกลุ่มนี้เลย ได้แต่เห็นผ่าน ๆ ตามร้านหนังสือ แต่หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ฉันคิดว่าถึงเวลาไปตามหางานของเขามาอ่านแล้วล่ะ เพราะแต่ล่ะท่านเขียนและถ่ายทอดออกมาดีมาก ๆ เลยบางบทมันโดนใจและแอบน้ำตาซึม ซึ่งเล่มนี้เหมือนเป็นงานรวมนักเขียนคุณภาพของสำนักพิมพ์เลยค่ะ “การรักตัวเองไม่ใช่เรื่องเห็นแก่ตัวหรอก การเห็นแก่คนอื่นจนสูญเสียตัวตนไป น่าเศร้ากว่ามาก”  บ้านข้างๆ Advertisement “คนที่เราควรใจดีด้วยที่สุดก็คือตัวเราเอง” เป็นหนังสือจากสำนักพิมพ์ Springbooks ซึ่งหนังสือส่วนใหญ่ของสำนักพิมพ์เป็นหนังสือ ฮิลใจ สำหรับคนในยุคนี้ ถ้าเปรียบเป็นยาก็เป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดไว้ในชั้นหนังสือ เผื่อวันไหนที่หัวใจอ่อนหล้าหรือเจ็บปวด หนังสือเหล่านี้จะช่วยเราให้ผ่านพ้นช่วงเวลานั้นไปได้นะคะ เริ่มจากเล่มนี้เลยก็ได้ค่ะ “คนที่เราควรใจดีด้วยที่สุดก็คือตัวเราเอง” และฉันว่าประโยคนี้ เราควรย้ำกับตัวเองบ่อย ๆ ด้วยค่ะ เพราะเชื่อมั้ยว่าคนที่ใจดีส่วนใหญ่นั้น มักจะใจดีกับคนอื่นได้เสมอแต่กับตัวเองมักจะหลงลืมและแอบใจร้ายกับตัวเองบ่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว อย่างเช่น ให้เวลากับคนรอบข้างได้เสมอ แต่พอถึงตัวเองกลับบอกว่าเอาไว้ก่อนยังไม่รีบหรือค่อยไปหรือทำวันอื่นได้ แต่กว่าจะรู้ตัวเวลาก็เหลือน้อยลงไปทุกที “บทเรียนที่ทำให้เรารักตัวเองมากขึ้น มักเกิดขึ้นภายหลังที่เราปราศจากความรักในตัวเอง”Once             ในหนังสือจะพาเราไปทำความเข้าใจกับคำว่า “รักตัวเอง” […]

[ชวนอ่าน] คิมจียอง เกิดปี 82

หนังสือที่เป็นเสมือนตัวแทนของผู้หญิงและผู้หญิงทุกคนควรอ่าน บทความ โดย Dok Talom ทุก ๆ วันที่ 8 มีนาคม ของทุก ๆ ปี ถือเป็นวัน “สตรีสากล” (International women’s day) โดยมีเหล่าผู้หญิงทั่วโลกจากหลายประเทศรวมตัวกันเฉลิมฉลองและร่วมร่ำลึกถึงเหตุการณ์การต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของสตรี ของเหล่ากรรมกรหญิงจากโรงงานทอผ้าในรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1857 แต่พวกเธอประมาณ 119 คนกลับเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น และก็มีการเรียกร้องจากลุ่มสตรีมาเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จนกระทั่งวันที่ 8 มีนาคม 1910 ความพยามของเหล่ากรรมกรหญิงกลุ่มนี้ก็สำเร็จ ความพยายามเกือบ 53 ปีของพลังสตรีก็เบ่งบานและ “ดอกมิโมซ่าสีเหลือง” ก็ถือเป็นสัญลักษณ์ของวันนี้ด้วย Advertisement หนังสือที่หยิบมาชวนอ่านวันนี้เคยเป็นกระแสที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อหลายปีก่อน และเป็นหนังสือที่ถือว่าเป็นหนังสือที่พูดแทนเสียงผู้หญิงในเกาหลีใต้ และนั่นเองจึงทำให้เกิดกระแส “เฟมินิสม์” (feminism) หรือแนวคิดสตรีนิยม ขึ้นจนถึงขั้นที่ว่ามีบรรดาแฟนคลับผู้ชายของนักร้องไอดอลดังท่านหนึ่ง พากันออกมาวิพากษ์วิจารณ์ และเผ่ารูปเธอออกสื่อโซเซลต่าง ๆ เพียงเพราะเธอบอกว่าเธอกำลังอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่ ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ก็มีผู้คนมากมายออกมาประนามการกระทำของเหล่าแฟนคลับเหล่านี้ และสนับสนุนหนังสือจนได้รับการตีพิมพ์ไปยังประเทศต่าง ๆ รวมถึงยังได้ทำออกมาเป็นภาพยนต์ที่มีคุณสามีแห่งชาติอย่าง กงยู และ จอง […]

[ชวนอ่าน] Organic 101 : ชีวิตนั้นไม่ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ออแกนิคก็เช่นกัน (ต้องการ)

บทความ โดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้จะพาทุกคนไปเปิดโลกของคำว่า Organic (ออแกนิค) กันค่ะ จริง ๆ ฉันมีโอกาสได้รู้จักคำ ๆ นี้ผ่านหนังสือเล่มหนึ่งเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว จากหนังสือ Slow Bookของคุณต้องการ (วลัยกร สมรรถกร) เธอเป็นทั้งนักเขียนและนักวาดภาพประกอบ ผลงานของเธอคุ้นตากันดีจากนิตยสาร a day นิตยสารที่ทุกคนในยุคนั้นต้องรู้จัก แม้วันนี้เธอจะจากโลกนี้ไปแล้วแต่ผลงานดี ๆ ของเธอจะทำให้โลกของใครบางคนดีขึ้นและงานของเธอจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมสืบไป ขออาลัยและขอขอบคุณเธอที่สร้างผลงานที่แสนดีมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ Advertisement จริง ๆ แล้วฉันสนใจกับคำ ๆ นี้มาตั้งแต่ตอนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ แต่ด้วยวิถีชีวิตและวัยในเวลานั้น ทำให้ห่างไกลกับคำ ๆ นี้จริง ๆ แต่ในระหว่างทางนี้เองแม้ฉันจะไม่ได้ยึดหลักการใช้ชีวิตแบบ ออแกนิคอย่างที่ได้อ่านหรือรู้มา แต่ก็เหมือนว่ามันซึมซับอะไรบางอย่างไปจากการอ่านหนังสือเล่มนั้น อย่างเช่น บางทีก็มีโอกาสได้ปลูกผักทานเองบ้าง หรือเลี่ยงผักจากตลาดที่คิดว่าน่าจะใส่สารเคมี โชคดีที่จังหวัดที่ฉันอยู่มีตลาดอินทรีย์อยู่หลายแห่ง เลยได้ทานผักที่ค่อนข้างปลอดสาร (แต่ถ้าเป็นออแกนิคจริง ๆ คือปลูกเองน่าจะดีที่สุด) ส่วนเรื่องอื่น ๆ อย่างการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีรุนแรงนั้นยังทำไม่ค่อยได้นัก […]

[ชวนอ่าน] แมวและฉันในวันธรรมดา : เมื่อโลกของเธอเริ่มหมุนรอบแมว ทุกๆ วันจะกลายเป็นวันพิเศษ

บทความโดย Dok Talom หนังสือฝุ่นๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้จะขอลัดคิวหนังสือทุกเล่มที่ซื้อมาจากงานหนังสือและก็แอบรู้สึกผิดกับบรรดาหนังสือที่อยู่ในกองดองรอให้ฉันปัดฝุ่นอ่านพวกนางอยู่ เพราะเทใจให้กับเล่มนี้มาก ๆ “แมวและฉันในวันธรรมดา” เริ่มต้น แค่ปกก็สะดุดตามาก ๆ กับภาพประกอบที่เรียบง่ายแต่ดูมีอะไรแอบซ่อนอยู่ในเล่มนี้ บวกกับชื่อของหนังสือแล้วนั้น เงินในกระเป๋าก็สั่นอย่างแรงและกระซิบบอกกับตัวฉันเองว่า “โปรดปล่อยฉันออกไปและรับหนังสือเล่มที่อยู่ตรงหน้ามาแทน” (เป็นตุเป็นตะจ้า 55+) เห็นอะไรเป็นแมวหน่อยไม่ได้เลยนะ ยายทาสแมว >_< “แมวและฉันในวันธรรมดา”เป็นหนังสือแปลของเกาหลี จากสำนักพิมพ์ Bibli ผู้เขียนคือคุณ แอ-ซยุง แปลโดยคุณ วีรญา กังวานเจิดสุข มีทั้งหมด 208 หน้า ราคาปก 255 บาท และนักวาดภาพประกอบก็เป็นคนเดียวกับผู้เขียนเลยคือ คุณแอ-ซยุง ซึ่งฉันมารู้ที่หลังว่าเธอคือคนวาดคนเดียวกันกับหนังสือเรื่อง “ที่จริงแล้วฉันเป็นคนเก็บตัวนะ” หนังสืออีกเล่มที่รอให้ฉันปัดฝุ่นออกมาอ่าน ไว้อ่านเสร็จเมื่อไรจะมาชวนอ่านกันนะคะ Advertisement ส่วนตัวแล้วชอบลายเส้นของเธอคนนี้มาก เป็นลายเส้นที่เรียบง่ายแต่ดูแล้วก็อบอุ่นหัวใจ ฉันเลยไปแอบส่องไอจีเธอคนนี้มา ปรากฏว่าเธอเป็นผู้หญิงน่ารักจริง ๆ จ้า และในนั้นเราก็ได้เจอเจ้ามิวมิว ซึ่งออกมาทักทายเป็นระยะ ๆ แถมยังได้ชมงานศิลปะในไอจีของเธอด้วย ยังไงก็ไปติดตามความน่ารักของเธอและแมวของเธอได้ที่นี่เลยจ้า ae_shoong หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านง่าย อ่านสบายเหมาะกับวันธรรมดา ๆ […]

[ชวนอ่าน] พาเที่ยวงานหนังสือที่เชียงใหม่พร้อมหนังสือเล่มใหม่ (เข้ากองดองจ้า)

บทความโดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณในวันพฤหัสฯ วันนี้จะพาไปเที่ยวชมบรรยากาศของงานเชียงใหม่บุ๊คแฟร์ที่ผ่านมากันค่ะ ก่อนอื่นต้องขออภัยที่หายหน้าหายตาไปสองสัปดาห์ และวันนี้ก็มาตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะเอาบรรยากาศงานหนังสือและหนังสือที่สอยกลับมาเพิ่มกองดองของฉันมาฝาก มีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันเลยนะคะ ความตั้งใจแรกว่าจะไปงานหนังสือ 2 วันแต่ด้วยติดภารกิจหลายอย่างเลยทำให้สิ่งที่วางแผนไว้ไม่เป็นดั่งที่วางไว้ จึงไปได้แค่ 1 วัน ซึ่งถือเป็น 1 วันที่คุ้ม เพราะปีนี้เตรียมตัวมาค่อนข้างดี (สามารถกลับไปอ่านวิธีเตรียมตัวไปงานหนังสือได้ที่บทก่อน ที่นี่ เลย) แม้จะได้หนังสือที่ไม่ได้ลดราคามาเยอะ แต่ก็ได้เล่มที่อยากอ่านกลับมาด้วยความรู้สึกปลื้มปริ่ม และได้ใช้ช่วงเวลาหนึ่งกับสิ่งที่รัก (ได้เสียเงินนั่นเองจ้า) ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ได้เติมความสุขหลังจากที่เหนื่อยกับอะไรหลายๆ อย่างที่พบเจอมา บรรยากาศภายในงานปีนี้ก็คล้าย ๆ กับทุกครั้ง คือมีบรรดาหนังสือลดราคาที่ถูกสุดอยู่ที่เล่มละ 20 ซึ่งเป็นหนังสือเก่า ใครที่ตามหาหนังสือเก่าที่หาไม่ได้แล้วตามร้านหนังสือก็มาค้นกันได้ตรงนี้ และยังมี เล่ม 35 และ 50 ที่ถือว่าเป็นกองที่สนุกเหมือนเราได้ตามหาสมบัติกันเลยทีเดียวจ้า ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือลด 50% และถ้าเป็นหนังสือใหม่จะลดอยู่ที่ 15 – 20% ซึ่งหนังสือบางเล่มก็ลดพอ ๆ กับร้านหนังสือแต่ที่พิเศษคือเราจะได้ของแถมจากงานนี้ด้วย Advertisement แม้วันนี้ผู้คนจะบางตาเพราะเป็นวันธรรมดา แต่ก็ถือว่าชื่นใจที่ยังมีคนชอบอ่านหนังสือกันอยู่โดยเฉพาะเด็ก ๆ รุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจในการอ่านหนังสือกันและมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ฉันได้มาแบบงง ๆ […]

[ชวนอ่าน] ในใจ…ไกลกว่าสายตา 

Sound of colors : เพราะบางสิ่งอาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเราจึงต้องใช้หัวใจมอง บทความ โดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ ไม่รู้ว่าด้วยความบังเอิญหรือพรหมลิขิต วันนี้จึงมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ฉันได้อ่านหนังสือ “ทำไมไทเป” ไป เลยไปกระตุกต่อมความอยากรู้จักและอยากไปไต้หวันมากขึ้นไปอีก จนเมื่อไม่กี่วันถัดมา ฉันเลยนึกอยากหาหนังสือเกี่ยวกับไต้หวันมาอ่านเพิ่ม (เล่มเก่ายังอ่านไม่หมดเลยนะ>_<) ก็เลยไปร้านหนังสือมือสอง แล้วก็ไปพบกับเจ้าเล่มนี้เลยจ้า “ในใจ… ไกลกว่าสายตา” หรือชื่อทางการคือ “Sound of colors” หนังสือภาพในตำนานเล่มหนึ่งของคุณ Jimmy Liao นักเขียนและวาดภาพประกอบชื่อดังของไต้หวันนั้นเอง Advertisement โดยถ้าพูดชื่อของคุณ Jimmy Liao แล้ว ในวงการนักอ่านต้องรู้จักกันดีและบางคนอาจเติบโตมาพร้อม ๆ กับลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์บวกกับการถ่ายทอดเนื้อหาที่สามารถฮีลหัวใจคนอ่านได้ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หนังสือของคุณ jimmy เข้าไปอยู่ในหัวใจใครหลาย ๆ คน และรวมถึงตัวฉันเอง (อยากให้ลองไปหาอ่านประวัติส่วนตัวของคุณ Jimmy กัน เผื่อเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตได้นะ) แม้เล่มนี้อาจเป็นเล่มแรกที่ฉันได้มาครอบครองก็เถอะ เมื่อมีเล่มแรกต้องมีเล่มต่อ ๆ ไปสิเนอะ […]

(ชวนอ่าน) : โดรายากิขนมนี้ทำด้วยใจ 

ปลดปล่อยใจให้เป็นอิสรภาพและทำทุก ๆ อย่างด้วยหัวใจ บทความ โดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้จะชวนเพื่อน ๆ นักอ่าน ไปทำความรู้จักกับขนมแสนโปรดของเจ้าโดราเอมอน แมวน้อยตัวสีฟ้าอ้วนกลม ตัวการ์ตูนสุดโปรดของใครหลายๆ คน รวมถึงฉันด้วยเพราะโตมากับการ์ตูนเรื่องนี้เลย และนั่นเองที่ทำให้ฉันรู้จักกับขนมโดรายากิมาตั้งแต่จำความได้ แต่ในเวลานั้น เจ้าขนมนี้กลับไม่มีให้ได้ลิ้มลอง จนมาได้สัมผัสรสชาติก็ตอนโตขึ้นมาหน่อยนี่แหละ แต่… มันก็ไม่ได้อร่อยจนถึงขั้นต้องคลั่งไคล้เหมือนเจ้าโดราเอมอนสักหน่อย 55+ หรือว่าขนมที่เราได้กินครั้งแรกในตอนนั้นมันอาจไม่ได้อร่อยหรือตรงตามต้นฉบับญี่ปุ่นจริง ๆ ก็ได้นี่เนอะ Advertisement เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบ สิ่งแรกที่นึกได้คือ อยากกินขนมโดรายากิที่ทำขึ้นด้วยใจจริง ๆ เลย มันน่าจะมีอยู่จริง ๆ ที่ญี่ปุ่น ซึ่งมานึกดูแล้ว เราก็ได้ไปถึงที่แต่ทำไมเราถึงไม่ได้นึกถึงมันเลยก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะขนมที่ญี่ปุ่นมีมากมายจนหลงลืมเจ้าขนมชนิดนี้ไปได้ บางทีการที่ได้อ่านหนังสือสักเล่ม ก็ทำให้เราได้ย้อนหรือทบทวนความรู้สึกที่เคยซ่อนอยู่ลึก ๆ ในหัวใจ ให้ออกมารู้สึกถึงมันอีกครั้ง เหมือนได้ปลุกอะไรบางอย่าง โดยสิ่งนั้นก็คือ “เด็กน้อยคนหนึ่ง” ที่ตื่นเต้นและสนุกสนานไปกับทุก ๆ เรื่องที่ผ่านเข้ามาให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และขนมโดรายากิที่ว่ามันคือขนมญี่ปุ่นที่นำเอาแป้งแพนเค้กเนื้อนุ่มสองแผ่นมาประกบกับไส้ซึ่งทำมาจากถั่วแดงกวนอันแสนหอมละมุน เรียกได้ว่าเป็นขนมลูกครึ่งตะวันตกและตะวันออกชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ ^.^ มาด้วยเรื่องหนังสือกัน โดรายากิขนมนี้ทำด้วยใจ […]