[ชวนอ่าน] Organic 101 : ชีวิตนั้นไม่ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ออแกนิคก็เช่นกัน (ต้องการ)

บทความ โดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้จะพาทุกคนไปเปิดโลกของคำว่า Organic (ออแกนิค) กันค่ะ จริง ๆ ฉันมีโอกาสได้รู้จักคำ ๆ นี้ผ่านหนังสือเล่มหนึ่งเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว จากหนังสือ Slow Bookของคุณต้องการ (วลัยกร สมรรถกร) เธอเป็นทั้งนักเขียนและนักวาดภาพประกอบ ผลงานของเธอคุ้นตากันดีจากนิตยสาร a day นิตยสารที่ทุกคนในยุคนั้นต้องรู้จัก แม้วันนี้เธอจะจากโลกนี้ไปแล้วแต่ผลงานดี ๆ ของเธอจะทำให้โลกของใครบางคนดีขึ้นและงานของเธอจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมสืบไป ขออาลัยและขอขอบคุณเธอที่สร้างผลงานที่แสนดีมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ Advertisement จริง ๆ แล้วฉันสนใจกับคำ ๆ นี้มาตั้งแต่ตอนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ แต่ด้วยวิถีชีวิตและวัยในเวลานั้น ทำให้ห่างไกลกับคำ ๆ นี้จริง ๆ แต่ในระหว่างทางนี้เองแม้ฉันจะไม่ได้ยึดหลักการใช้ชีวิตแบบ ออแกนิคอย่างที่ได้อ่านหรือรู้มา แต่ก็เหมือนว่ามันซึมซับอะไรบางอย่างไปจากการอ่านหนังสือเล่มนั้น อย่างเช่น บางทีก็มีโอกาสได้ปลูกผักทานเองบ้าง หรือเลี่ยงผักจากตลาดที่คิดว่าน่าจะใส่สารเคมี โชคดีที่จังหวัดที่ฉันอยู่มีตลาดอินทรีย์อยู่หลายแห่ง เลยได้ทานผักที่ค่อนข้างปลอดสาร (แต่ถ้าเป็นออแกนิคจริง ๆ คือปลูกเองน่าจะดีที่สุด) ส่วนเรื่องอื่น ๆ อย่างการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีรุนแรงนั้นยังทำไม่ค่อยได้นัก […]

[ชวนอ่าน] dawn ชั่ววูบเข้าใจชีวิตเหมือนแสงที่ริมขอบฟ้า 

เราทุก ๆ คนต่างมีแสงสว่างเป็นของตัวเองเพียงต้องหามันให้เจอ บทความ โดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กันคุณวันพฤหัสฯ วันนี้มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ได้มาแบบงง ๆ จากคำแนะนำของคนขายหนังสือ ว่าเจ้าหนังสือเล่มนี้ดีนะ เป็น 1 คนเขียน 1 คนวาด แต่ตอนนั้นไม่ได้เอะใจอะไรกับประโยคที่คนขายกล่าวไว้ เพราะแอบหลงรักหลายเส้นของภาพประกอบในเรื่องมาสักพักแล้ว เนื่องจากเคยได้รับที่คั้นหนังสือจากภาพปกนี่แหละมาก่อนหน้านี้ มันเป็นภาพที่ดูอบอุ่นปนเหงาและให้ความรู้สึกละมุนใจดี ดังนั้น เลยตัดสินใจพาหนังสือเล่มนี้กลับมาด้วยจากงานหนังสือเชียงใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อได้เปิดอ่านและทำความรู้จักกันเท่านั้น กลับพบว่า นี่คือหนังสือที่เขียนมาเพื่อฉันเลยล่ะ ^ ^ Advertisement “Dawn ชั่ววูปเข้าใจชีวิตเหมือนแสงที่ริมขอบฟ้า” เป็นหนังสือของสำนักพิมพ์ Full stop ซึ่งต้องขอชื่นชมการทำหนังสือของสำนักพิมพ์นี้เลย เพราะใส่ใจทุกรายละเอียดจริง ๆ อย่างเล่มนี้ก็ใช้เทคนิคการเย็บปกที่เปลือยให้เห็นด้านใน ซึ่งฉันชอบวิธีการนี้มาก มันทำให้เรากางหนังสือได้เต็มทีโดยไม่ต้องกลัวจะทำให้หน้ากระดาษหลุดออกมา โดยหนังสือของสำนักพิมพ์ทุกเล่มนั้น เปรียบเสมือนผลงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ควรค่าแก่การเก็บสะสม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา ภาพประกอบ รูปเล่ม หรือแม้แต่เนื้อกระดาษที่ใช้ก็ให้ความสำคัญ เมื่อทุกอย่างรวมกันมันจึงเป็นหนังสือที่เห็นแล้วรู้ทันทีว่าทุก ๆ คนที่มีส่วนในการทำหนังสือเขาตั้งใจทำกันจริง ๆ และเราสัมผัสถึงมันได้ ผ่านหนังสือที่อยู่ตรงหน้าขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่มีส่วนร่วมกันสร้างหนังสือดี ๆ ให้คนอ่านกันนะคะ “รักตัวเองให้เป็น” ประโยคที่ใครหลาย ๆ […]

[ชวนอ่าน] แมวและฉันในวันธรรมดา : เมื่อโลกของเธอเริ่มหมุนรอบแมว ทุกๆ วันจะกลายเป็นวันพิเศษ

บทความโดย Dok Talom หนังสือฝุ่นๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้จะขอลัดคิวหนังสือทุกเล่มที่ซื้อมาจากงานหนังสือและก็แอบรู้สึกผิดกับบรรดาหนังสือที่อยู่ในกองดองรอให้ฉันปัดฝุ่นอ่านพวกนางอยู่ เพราะเทใจให้กับเล่มนี้มาก ๆ “แมวและฉันในวันธรรมดา” เริ่มต้น แค่ปกก็สะดุดตามาก ๆ กับภาพประกอบที่เรียบง่ายแต่ดูมีอะไรแอบซ่อนอยู่ในเล่มนี้ บวกกับชื่อของหนังสือแล้วนั้น เงินในกระเป๋าก็สั่นอย่างแรงและกระซิบบอกกับตัวฉันเองว่า “โปรดปล่อยฉันออกไปและรับหนังสือเล่มที่อยู่ตรงหน้ามาแทน” (เป็นตุเป็นตะจ้า 55+) เห็นอะไรเป็นแมวหน่อยไม่ได้เลยนะ ยายทาสแมว >_< “แมวและฉันในวันธรรมดา”เป็นหนังสือแปลของเกาหลี จากสำนักพิมพ์ Bibli ผู้เขียนคือคุณ แอ-ซยุง แปลโดยคุณ วีรญา กังวานเจิดสุข มีทั้งหมด 208 หน้า ราคาปก 255 บาท และนักวาดภาพประกอบก็เป็นคนเดียวกับผู้เขียนเลยคือ คุณแอ-ซยุง ซึ่งฉันมารู้ที่หลังว่าเธอคือคนวาดคนเดียวกันกับหนังสือเรื่อง “ที่จริงแล้วฉันเป็นคนเก็บตัวนะ” หนังสืออีกเล่มที่รอให้ฉันปัดฝุ่นออกมาอ่าน ไว้อ่านเสร็จเมื่อไรจะมาชวนอ่านกันนะคะ Advertisement ส่วนตัวแล้วชอบลายเส้นของเธอคนนี้มาก เป็นลายเส้นที่เรียบง่ายแต่ดูแล้วก็อบอุ่นหัวใจ ฉันเลยไปแอบส่องไอจีเธอคนนี้มา ปรากฏว่าเธอเป็นผู้หญิงน่ารักจริง ๆ จ้า และในนั้นเราก็ได้เจอเจ้ามิวมิว ซึ่งออกมาทักทายเป็นระยะ ๆ แถมยังได้ชมงานศิลปะในไอจีของเธอด้วย ยังไงก็ไปติดตามความน่ารักของเธอและแมวของเธอได้ที่นี่เลยจ้า ae_shoong หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านง่าย อ่านสบายเหมาะกับวันธรรมดา ๆ […]

[ชวนอ่าน] พาเที่ยวงานหนังสือที่เชียงใหม่พร้อมหนังสือเล่มใหม่ (เข้ากองดองจ้า)

บทความโดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณในวันพฤหัสฯ วันนี้จะพาไปเที่ยวชมบรรยากาศของงานเชียงใหม่บุ๊คแฟร์ที่ผ่านมากันค่ะ ก่อนอื่นต้องขออภัยที่หายหน้าหายตาไปสองสัปดาห์ และวันนี้ก็มาตามสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะเอาบรรยากาศงานหนังสือและหนังสือที่สอยกลับมาเพิ่มกองดองของฉันมาฝาก มีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันเลยนะคะ ความตั้งใจแรกว่าจะไปงานหนังสือ 2 วันแต่ด้วยติดภารกิจหลายอย่างเลยทำให้สิ่งที่วางแผนไว้ไม่เป็นดั่งที่วางไว้ จึงไปได้แค่ 1 วัน ซึ่งถือเป็น 1 วันที่คุ้ม เพราะปีนี้เตรียมตัวมาค่อนข้างดี (สามารถกลับไปอ่านวิธีเตรียมตัวไปงานหนังสือได้ที่บทก่อน ที่นี่ เลย) แม้จะได้หนังสือที่ไม่ได้ลดราคามาเยอะ แต่ก็ได้เล่มที่อยากอ่านกลับมาด้วยความรู้สึกปลื้มปริ่ม และได้ใช้ช่วงเวลาหนึ่งกับสิ่งที่รัก (ได้เสียเงินนั่นเองจ้า) ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ได้เติมความสุขหลังจากที่เหนื่อยกับอะไรหลายๆ อย่างที่พบเจอมา บรรยากาศภายในงานปีนี้ก็คล้าย ๆ กับทุกครั้ง คือมีบรรดาหนังสือลดราคาที่ถูกสุดอยู่ที่เล่มละ 20 ซึ่งเป็นหนังสือเก่า ใครที่ตามหาหนังสือเก่าที่หาไม่ได้แล้วตามร้านหนังสือก็มาค้นกันได้ตรงนี้ และยังมี เล่ม 35 และ 50 ที่ถือว่าเป็นกองที่สนุกเหมือนเราได้ตามหาสมบัติกันเลยทีเดียวจ้า ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือลด 50% และถ้าเป็นหนังสือใหม่จะลดอยู่ที่ 15 – 20% ซึ่งหนังสือบางเล่มก็ลดพอ ๆ กับร้านหนังสือแต่ที่พิเศษคือเราจะได้ของแถมจากงานนี้ด้วย Advertisement แม้วันนี้ผู้คนจะบางตาเพราะเป็นวันธรรมดา แต่ก็ถือว่าชื่นใจที่ยังมีคนชอบอ่านหนังสือกันอยู่โดยเฉพาะเด็ก ๆ รุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจในการอ่านหนังสือกันและมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ฉันได้มาแบบงง ๆ […]

[ชวนเที่ยว] มาเตรียมตัวเตรียมใจไปเดินงานหนังสือกันเถอะ

บทความ โดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้เราจะไม่ได้มาชวนอ่านหนังสือกันเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ จะมาแนะนำวิธีการเตรียมตัวไปงานหนังสือกัน เพราะเดือนนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่กำลังจะมีงานหนังสือประจำปีโดยจัดในชื่อ “Chiang Mai Book Fair” ซึ่งปีนี้มาในชื่องาน “Book Carnival” โดยงานครั้งนี้ถือเป็นเชียงใหม่บุ๊คแฟร์ ครั้งที่ 7 แล้วนะ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นงานหนังสือใหญ่ประจำปีเลยก็ว่าได้ และสถานที่จัดงานนั้นก็คือ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ระหว่างช่วงวันที่ 24 มิถุนายน ถึง 3 กรกฎาคม 2565 จัดกันยาว ๆ 10 วันเต็ม ๆ เลยจ้า Advertisement เวลาฉันไปงานหนังสือในแต่ล่ะครั้ง ต้องสารภาพเลยว่าไม่เคยเตรียมตัวอะไรไปกับเค้าเลย แม้แต่งบประมาณก็ไม่เคยได้ตั้งเอาไว้ ชื่อหนังสือเอย แนวหนังสือเอย ชื่อนักเขียนเอย ก็ไม่เคยลิสไว้ เหมือนว่าไปตายเอาดาบหน้ายังไงอย่างงั้น แหะ ๆ คือไปแบบไร้จุดหมาย แต่บางครั้งก็เกินคาดได้หนังสือที่ถูกใจและสบายกระเป๋า บางครั้งก็แทบตัวเปล่ากลับมาแบบว่ายืนงงในดงหนังสือกันเลยทีเดียว เพราะมีเยอะมากแบบไม่รู้จะซื้ออะไรดี บางทีก็ทำให้เราพลาดหนังสือดี […]

[ชวนอ่าน] ในใจ…ไกลกว่าสายตา 

Sound of colors : เพราะบางสิ่งอาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเราจึงต้องใช้หัวใจมอง บทความ โดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ ไม่รู้ว่าด้วยความบังเอิญหรือพรหมลิขิต วันนี้จึงมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ฉันได้อ่านหนังสือ “ทำไมไทเป” ไป เลยไปกระตุกต่อมความอยากรู้จักและอยากไปไต้หวันมากขึ้นไปอีก จนเมื่อไม่กี่วันถัดมา ฉันเลยนึกอยากหาหนังสือเกี่ยวกับไต้หวันมาอ่านเพิ่ม (เล่มเก่ายังอ่านไม่หมดเลยนะ>_<) ก็เลยไปร้านหนังสือมือสอง แล้วก็ไปพบกับเจ้าเล่มนี้เลยจ้า “ในใจ… ไกลกว่าสายตา” หรือชื่อทางการคือ “Sound of colors” หนังสือภาพในตำนานเล่มหนึ่งของคุณ Jimmy Liao นักเขียนและวาดภาพประกอบชื่อดังของไต้หวันนั้นเอง Advertisement โดยถ้าพูดชื่อของคุณ Jimmy Liao แล้ว ในวงการนักอ่านต้องรู้จักกันดีและบางคนอาจเติบโตมาพร้อม ๆ กับลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์บวกกับการถ่ายทอดเนื้อหาที่สามารถฮีลหัวใจคนอ่านได้ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หนังสือของคุณ jimmy เข้าไปอยู่ในหัวใจใครหลาย ๆ คน และรวมถึงตัวฉันเอง (อยากให้ลองไปหาอ่านประวัติส่วนตัวของคุณ Jimmy กัน เผื่อเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตได้นะ) แม้เล่มนี้อาจเป็นเล่มแรกที่ฉันได้มาครอบครองก็เถอะ เมื่อมีเล่มแรกต้องมีเล่มต่อ ๆ ไปสิเนอะ […]

(ชวนอ่าน) ทำไมไทเป : การเดินทางที่เริ่มต้นจากคำถามสู่คำตอบที่แสนประทับใจ

บทความโดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้จะพาย้ายประเทศกันสักหน่อยนะคะ กลัวจะเบื่อญี่ปุ่นกันไปเสียก่อน เพราะจริง ๆ หนังสือที่กองดองอยู่นั่นก็มีหลายแนว หลายโหมด แต่หลัง ๆ มานี่มองหาแต่หนังสือเกี่ยวกับญี่ปุ่นและบวกกับความคิดถึงประเทศญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม เลยเลือกเอามาอ่านและแนะนำก่อนเลยค่ะ   ซึ่ง “ทำไมไทเป” เล่มนี้ก็เป็นผลจากการวางแผนการเดินทางครั้งต่อไปของฉันและ ไต้หวันก็เป็นจุดหมายต่อไปของการเดินทาง แต่ ๆ ๆ COVID-19มาพ่นพิษเสียก่อนเลยต้องพับโปรเจคนี้ไปยาว ๆ และทำให้เกิดความลังเลว่า ถ้าประเทศเหล่านี้เปิดรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางแล้ว ฉันจะไปที่ไหนดีเป็นที่แรกระหว่าง ญี่ปุ่นที่คิดถึง หรือ ไต้หวันที่รอคอย  >_<  (ดูเงินในกระเป๋าก่อนนะ)   Advertisement จริง ๆ ไต้หวันเป็นประเทศแรก ๆ ที่ฉันอยากไปเลยนะ ญี่ปุ่นในตอนนั้นยังไม่รู้สึกว่าอยากไป เพราะอะไรนะหรือ “F4 รักใสๆ หัวใจสี่ดวง” ไง (บงบอกอายุกันไปเลยค่า) ตอนนั้นบ้านเราฟีเวอร์มากๆ เป็นซีรีย์ที่ทำให้ฉันเปิดใจกับการอยากออกไปเที่ยวต่างประเทศเลยล่ะ และหลังๆ มานี่เกาหลีเค้าก็ทำได้ดีและประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักท่องเที่ยวผ่านซีรีย์หรือภาพยนตร์ และฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นที่โดนตกไปจากการดู สาเหตุของขอบตาดำเป็นหมีแพนด้ามันมาจากเจ้าสิ่งนี้แหละค่า   ทำไมไทเป หนังสือเล่มนี้นอกจากชื่อและปกยังสะดุดตาแล้วภาพประกอบก็แสนจะดึงดูด (น่ารักมากกก) ซึ่งหนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของคุณน้ำส้ม จากสำนักพิมพ์ […]

(ชวนอ่าน) : โดรายากิขนมนี้ทำด้วยใจ 

ปลดปล่อยใจให้เป็นอิสรภาพและทำทุก ๆ อย่างด้วยหัวใจ บทความ โดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้จะชวนเพื่อน ๆ นักอ่าน ไปทำความรู้จักกับขนมแสนโปรดของเจ้าโดราเอมอน แมวน้อยตัวสีฟ้าอ้วนกลม ตัวการ์ตูนสุดโปรดของใครหลายๆ คน รวมถึงฉันด้วยเพราะโตมากับการ์ตูนเรื่องนี้เลย และนั่นเองที่ทำให้ฉันรู้จักกับขนมโดรายากิมาตั้งแต่จำความได้ แต่ในเวลานั้น เจ้าขนมนี้กลับไม่มีให้ได้ลิ้มลอง จนมาได้สัมผัสรสชาติก็ตอนโตขึ้นมาหน่อยนี่แหละ แต่… มันก็ไม่ได้อร่อยจนถึงขั้นต้องคลั่งไคล้เหมือนเจ้าโดราเอมอนสักหน่อย 55+ หรือว่าขนมที่เราได้กินครั้งแรกในตอนนั้นมันอาจไม่ได้อร่อยหรือตรงตามต้นฉบับญี่ปุ่นจริง ๆ ก็ได้นี่เนอะ Advertisement เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบ สิ่งแรกที่นึกได้คือ อยากกินขนมโดรายากิที่ทำขึ้นด้วยใจจริง ๆ เลย มันน่าจะมีอยู่จริง ๆ ที่ญี่ปุ่น ซึ่งมานึกดูแล้ว เราก็ได้ไปถึงที่แต่ทำไมเราถึงไม่ได้นึกถึงมันเลยก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะขนมที่ญี่ปุ่นมีมากมายจนหลงลืมเจ้าขนมชนิดนี้ไปได้ บางทีการที่ได้อ่านหนังสือสักเล่ม ก็ทำให้เราได้ย้อนหรือทบทวนความรู้สึกที่เคยซ่อนอยู่ลึก ๆ ในหัวใจ ให้ออกมารู้สึกถึงมันอีกครั้ง เหมือนได้ปลุกอะไรบางอย่าง โดยสิ่งนั้นก็คือ “เด็กน้อยคนหนึ่ง” ที่ตื่นเต้นและสนุกสนานไปกับทุก ๆ เรื่องที่ผ่านเข้ามาให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และขนมโดรายากิที่ว่ามันคือขนมญี่ปุ่นที่นำเอาแป้งแพนเค้กเนื้อนุ่มสองแผ่นมาประกบกับไส้ซึ่งทำมาจากถั่วแดงกวนอันแสนหอมละมุน เรียกได้ว่าเป็นขนมลูกครึ่งตะวันตกและตะวันออกชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ ^.^ มาด้วยเรื่องหนังสือกัน โดรายากิขนมนี้ทำด้วยใจ […]

[ชวนอ่าน] ทำอะไรเล็ก ๆ ง่าย ๆ ก็มีความสุขได้ 

เพราะความสุขอาจเป็นเรื่องใกล้ตัวใกล้ใจกว่าที่เราคิด เล็ก ๆ ง่าย ๆ ก็มีความสุขได้ บทความ โดย Dok Talom หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้จะมาแนะนำหนังสือเก่าเก็บที่ได้มาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว แต่กว่าจะอ่านจบก็ไม่กี่วันมานี่เอง ไม่ใช่ว่าหนังสือไม่น่าสนใจหรือไม่สนุกนะ แต่เป็นหนังสือที่อ่านได้เรื่อย ๆ เพราะเป็นหนังสือที่บันทึกการเดินทางของนักเขียน คุณโหน่ง วงศ์ทะนง ชัยณรงค์สิงห์ ซึ่งเป็นนักเขียนในตำนานแห่งสำนักพิมพ์ a book สำนักพิมพ์ที่นักอ่านรุ่น ๆ ฉันต่างรู้จักกันดีและทุกเล่มของสำนักพิมพ์ล้วนมีคุณภาพควรค่าแก่การเก็บให้ครบทุกเล่มจริง ๆ นะ Advertisement หนังสือเล่มนี้เป็นการบันทึกการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นของคุณโหน่งและหญิงสาวของเขา (ชอบที่เขาเรียกเธอว่าหญิงสาวของผม) คุณปิ๋มซัง ซึ่งเป็นแฟนซีรีส์ “stay ซากะ…ฉันจะคิดถึงเธอ” และซีรีส์เรื่องนี้เองที่ทำให้ฉันรู้จักซากะเป็นครั้งแรกเช่นกัน ในตอนนั้นยังไม่เคยได้เดินทางไปญี่ปุ่นแต่แอบมีความฝันเล็ก ๆ เกิดขึ้นว่า ฉันจะต้องไปเยือนให้ได้เลย แม้การเดินทางไปญี่ปุ่นของฉันสองครั้งยังคงวนเวียนอยู่แถบโตเกียวแต่ซากะเป็นหนึ่งในเมืองที่ฉันต้องไปหากมีโอกาสฉันจะต้องไปเที่ยวบ้านของคุณพี่หมี (ซันนี่) ให้ได้  ^ ^ (รีบ ๆ เปิดประเทศเร็ว ๆ น้า) ในเล่มนี้คุณโหน่งจะพาเราค่อย ๆ ทำความรู้จักกับจังหวัดซากะ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในภูมิภาคคิวชูหรือทางใต้ของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง ส่วนใหญ่คนจะรู้จักซากะผ่าน เทศกาลบอลลูนนานาชาติซากะ (Saga International Balloon Festa) ที่มีภาพบอลลูนอยู่เต็มท้องฟ้า แต่ในจังหวัดนี้มีอะไรให้เราค้นหาอีกเยอะมาก […]

[ชวนอ่าน] แมวนักพยากรณ์แห่งร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง  ในวันที่หัวใจอ่อนล้าให้ของหวาน ๆ ช่วยเยี่ยวยาหัวใจคุณ

บทความ โดย Dok Talom ว่าด้วยเรื่องแมวและเวทมนต์แล้วนั่นน่าจะเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร อย่างแมวตัวแรกที่ฉันรู้จักน่าจะเป็น “ลูน่า” แมวตัวสีเทามีรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวอยู่กลางหน้าผากในเรื่องเซเลอร์มูน และแมวตัวนี้เอง ได้นำพาชีวิตเด็กสาวคนหนึ่งไปรู้จักอีกโลกหนึ่งที่เธอไม่เคยคิดว่ามี จนเกิดเรื่องราวแสนมหัสจรรย์มากมายเกิดขึ้น นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายตัวเช่น  “เซเลม” แมวดูผู้คอยดูแลและปกป้อง Sabrina “จิจิ” แมวคู่ใจไปไหนไปด้วยของแม่มดน้อยกิกิ หรือแมวของ Hermione อย่าง “ครุกแชงก์” ที่ว่ามาแล้วนั้น คือแมวแต่ละตัวล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเวทมนต์ทั้งสิ้น   Advertisement แมวนักพยากรณ์แห่งร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง จึงเป็นหนังสืออีกเล่ม ที่เหล่าทาสแมวไม่ควรพลาด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับ “แมว” โดยแมวในเรื่องนี้ จะพาเราเข้าสู่โลกของศาสตร์แห่งการพยากรณ์ พาเราไปรู้จักหน้าที่ของดวงดาว ว่าส่งผลอย่างไรกับชีวิตเรา และเราควรรับมืออย่างไร และยังคอยเสริฟเมนูขนมหวานที่แค่ฟังชื่อก็เรียกน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเราเบา ๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าอ่านไปหิวไปเลยทีเดียวเลยค่า แน่นอนว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับแมว แต่เหล่าแมวมาทำอะไรกันในร้านกาแฟที่ชื่อจันทร์เต็มดวงน่ะเหรอ ก็มาคอยช่วยเหลือเหล่ามนุษย์ที่ชีวิตกำลังอยู่ในช่วงสับสน หว้าเหว่ และหลงทางไงล่ะ ฮีโร่สุด ๆ เลยนะเจ้าเหมียว โดยเรื่องราวเหล่านี้ถูกถ่ายทอดโดย ไม โมจัทสึกิ และถูกแปลโดยสำนักพิมพ์ PICCOLO ซึ่งเป็นอีกสำนักพิมพ์ที่จับเอาหนังสือจากต่างประเทศมาแปลให้เราได้อ่าน และแต่ล่ะเล่มล้วนอบอุ่นหัวใจ อย่างเรื่องที่เคยแนะนำไปอย่าง “โกโก้อุ่น […]

1 2 3