บทความโดย Dok Talom
หนังสือเล่มสุดท้ายที่ฉันอ่านจบจริง ๆ จัง ๆ ถ้าให้นึกย้อนไปแบบเค้นเอาความทรงจำออกมา น่าจะประมาณเมื่อ 3 ปีที่แล้วเห็นจะได้ และเรื่องที่อ่านคือ Hokkaido summer หนังสือที่เล่าเรื่องราวของสองวูฟเฟอร์ที่เดินทางไปแลกเปลี่ยนแรงงานในฟาร์มที่ญี่ปุ่นเป็นค่าที่พักและอาหาร (บางมื้อ) แถมยังได้เที่ยวเมื่อเวลาว่างตอนไม่ได้ทำงาน อ่านแล้วก็อยากไปแบบนี้บ้างจัง ไว้จะเอามาสปอยวันอื่นนะ
จริง ๆ ระหว่าง 3 ปีนี้ ก็อ่านหนังสือนะ แต่ไม่เคยจบเล่มหรืออ่านเป็นเรื่องเป็นราวเลย ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ไม่เคยขาดการเข้าร้านหนังสือยังคงสอยติดไม้ติดมือกลับบ้านตลอด (ส่วนใหญ่เป็นหนังสือ sale) จนทำให้กองหนังสือที่ซื้อมาแต่ไม่ได้เปิดอ่านนั่นเยอะมาก มารู้ตัวอีกทีว่าเรามีหนังสือเยอะขนาดนี้ก็ตอนเอาออกมาจัดและเรียงขึ้นชั้นไม่พอจนต้องหาตู้เล็ก ๆ มาใส่อีกใบ ที่สำคัญคือหนังสือส่วนใหญ่ฉันรู้จักแต่หน้า (ปก) แต่ไม่เคยทำความรู้จักกันให้ลึก ๆ เลย T^T
Advertisementเมื่อโลกเปลี่ยนเราก็เปลี่ยนตามโลก ซึ่งบางเรื่องก็รู้ตัว บางเรื่องก็ไม่รู้ตัวเช่นว่า การอ่านหนังสือของฉันเปลี่ยนไป เมื่อก่อนต้องอ่านก่อนนอนทุกคืน บางคืนมีถึงเช้าค่า แต่พอชีวิตรู้จักกับคำว่า ซีรีย์โดยเฉพาะเกาหลีแล้วนั่นอย่าเผลอกดไปดูแป๊บ ๆ นะ ยาวเลยล่ะทีนี้ ยิ่งตอนนี้มี Netflix เอย Disney+ เอย ยังมีค่ายอื่น ๆ อีกมากมาย จากซีรีย์เกาลี มาเป็นจีน ฝรั่ง และอื่น ๆ อีกมากมาย จนเหมือนว่าทั้งชีวิตนี้จะดูหมดมั้ยงานนี้ นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฉันเอาใจถอยห่างจากหนังสือ
แล้ววันหนึ่งก็มารู้ตัวว่าตัวเองนั่นทำตัวห่างเหินกับเพื่อนที่ดีที่สุดอีกคนหนึ่งไป ที่บอกว่าหนังสือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเพราะตอนสมัยเด็ก ๆ ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือ (ไม่ใช่หนังสือเรียนแน่ ๆ) เพราะด้วยความเป็นลูกคนเดียวจึงต้องหัดเล่นและอยู่คนเดียวให้เป็น หนังสือก็เป็นหนึ่งตัวเลือกที่พาฉันข้ามช่วงเวลาไปได้อย่างรวดเร็วแถมยังพาไปรู้จักโลกอื่น ๆ อีกมากมาย หนังสือบางเล่มก็เติบโตไปพร้อม ๆ กัน อย่าง Harry Potter บางเล่มก็ไม่รู้จะจบสิ้นเมื่อไหร่อย่าง One Piece และเช่นกันโลกแห่งหนังสือนั้นมีมากมายหลากหลายเรื่องราวที่รอให้เราเปิดอ่านแบบไม่รู้จบ แต่คำถามคือ เราจะเอาเวลาที่ไหนมาอยู่กับมัน เพราะในเมื่อตอนนี้โลกมันหมุนเร็วมาก แป๊บ ๆ หมดวัน แป๊บ ๆ หมดเดือนและปี รู้ตัวอีกทีนี่ฉันไม่ได้อยู่กับหนังสือมา 3 ปีแล้วเหรอนี่ มันเป็นเรื่องเศร้าใจนะที่เราห่างกับเพื่อนที่ดีที่สุดขนาดนี้ นี่คือที่มาของหนึ่งในปณิธานของฉันต่อจากนี้ “ฉันจะอ่านหนังสือให้จบ 1 เล่มภายใน 1 สัปดาห์” ไม่พอจะมาป้ายยาคนอ่านด้วย แหะๆ ฝากติดตาม คอลัม “หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ” ด้วยน้า (อัพทุก ๆ วันพฤหัส)
เป้าหมายในครั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะตัวฉันเอง แต่อยากชวนคนที่เคยรักและชื่นชอบในการอ่านได้กลับมาเริ่มเปิดหนังสือที่บางเล่มฝุ่นเกาะ บางเล่มเคยตื่นเต้นตอนได้มา หรือบางเล่มก็อ่านไม่เคยจบสักที มาปัดฝุ่นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรากัน บางทีเพื่อนคนนี้อาจกลับมาเติมเต็มสิ่งที่หายไป โดยเฉพาะความฝันที่หลนหายไปตามกาลเวลา กลับมาอ่านหนังสือกันเถอะ!!!