(ชวนอ่าน) ทำไมไทเป : การเดินทางที่เริ่มต้นจากคำถามสู่คำตอบที่แสนประทับใจ

บทความโดย Dok Talom

หนังสือฝุ่น ๆ กับคุณวันพฤหัสฯ วันนี้จะพาย้ายประเทศกันสักหน่อยนะคะ กลัวจะเบื่อญี่ปุ่นกันไปเสียก่อน เพราะจริง ๆ หนังสือที่กองดองอยู่นั่นก็มีหลายแนว หลายโหมด แต่หลัง ๆ มานี่มองหาแต่หนังสือเกี่ยวกับญี่ปุ่นและบวกกับความคิดถึงประเทศญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม เลยเลือกเอามาอ่านและแนะนำก่อนเลยค่ะ  

ซึ่ง ทำไมไทเปเล่มนี้ก็เป็นผลจากการวางแผนการเดินทางครั้งต่อไปของฉันและ ไต้หวันก็เป็นจุดหมายต่อไปของการเดินทาง แต่ ๆ COVID-19มาพ่นพิษเสียก่อนเลยต้องพับโปรเจคนี้ไปยาว ๆ และทำให้เกิดความลังเลว่า ถ้าประเทศเหล่านี้เปิดรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางแล้ว ฉันจะไปที่ไหนดีเป็นที่แรกระหว่าง ญี่ปุ่นที่คิดถึง หรือ ไต้หวันที่รอคอย  >_<  (ดูเงินในกระเป๋าก่อนนะ)

 

(หนังสือเกี่ยวกับไต้หวันที่ดองไว้หวังว่าเมื่อไรที่เปิดประเทศจะได้เปิดอ่านกันอีกครั้ง ตอนนี้ก็กระตุ้นต่อมความอยากไปพลาง ๆ ก่อนล่ะกัน)
Advertisement

จริง ๆ ไต้หวันเป็นประเทศแรก ๆ ที่ฉันอยากไปเลยนะ ญี่ปุ่นในตอนนั้นยังไม่รู้สึกว่าอยากไป เพราะอะไรนะหรือ F4 รักใสๆ หัวใจสี่ดวงไง (บงบอกอายุกันไปเลยค่า) ตอนนั้นบ้านเราฟีเวอร์มากๆ เป็นซีรีย์ที่ทำให้ฉันเปิดใจกับการอยากออกไปเที่ยวต่างประเทศเลยล่ะ

และหลังๆ มานี่เกาหลีเค้าก็ทำได้ดีและประสบความสำเร็จในการดึงดูดนักท่องเที่ยวผ่านซีรีย์หรือภาพยนตร์ และฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นที่โดนตกไปจากการดู สาเหตุของขอบตาดำเป็นหมีแพนด้ามันมาจากเจ้าสิ่งนี้แหละค่า

 

(คำโปรยปกหลังกับภาพประกอบแสนน่ารักที่มาทักทายเราตลอดเล่มเลย)

ทำไมไทเป หนังสือเล่มนี้นอกจากชื่อและปกยังสะดุดตาแล้วภาพประกอบก็แสนจะดึงดูด (น่ารักมากกก) ซึ่งหนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของคุณน้ำส้ม จากสำนักพิมพ์ Bun Book ถ้าจำไม่ผิดน่าจะได้มาจากงาน Book fair เมื่อ 3 ปีที่แล้วและได้มาในราคา sale แค่ 50 บาท เพราะเป็นหนังสือที่ตีพิมพ์มาแล้วหลายปี เรียกได้ว่าได้หนังสือดี ๆ ในราคาน่ารักแต่ต้องใช้เวลาเดินดูกันสักหน่อยนะหนังสือมันละลานตามากเลย

เล่มนี้จึงเป็นเล่มหนึ่งในนั้นที่ฉันแสนจะภาคภูมิใจที่ได้มา แม้ข้อมูลในหนังสือจะเป็นข้อมูลในปี 2559 มันก็ผ่านมาแล้ว 6 ปี ก็ต้องมาอัพเดทกันอีกทีนะ บางทีคาเฟ่หรือร้านค้าอาจปิดตัวกันไปบ้างตามยุคสมัย ยิ่งโดนเจ้า COVID – 19 นี่ไปด้วยแต่ล่ะร้านในหนังสือจะยังคงอยู่มั้ยหนอ??? T_T

 

(หากได้ไปเยือนไทเปอย่าลืมเช็คข้อมูลและอัพเดทร้านรวงต่าง ๆ กันกันด้วยนะ)

หนังสือเล่มนี้จะว่าเป็นหนังสือไกด์บุ๊คก็ไม่ใช่ ไดอารี่ก็ไม่เชิง ถือเป็นการเล่าเรื่องที่น่าสนใจโดยเฉพาะภาพประกอบลายเส้นสวย ๆ ที่อ่านไปก็เพลินแป๊บ ๆ ก็อ่านจบเล่มนี้ฉันนอนอ่าน 1 คืนเองนะ ด้วยภาษาที่อ่านสนุกเป็นกันเอง

ว่าด้วยเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่ออกเดินทางเพราะต้องการหาคำตอบบางอย่าง มีบางอย่างที่ไทเปเรียกหาเธอ ไม่ว่าจะเป็นโปสการ์ดที่ส่งผิด หรือเพื่อนใหม่ที่รู้จักจากการเต้นสวิง (รู้จักกับการเต้นสวิงครั้งแรกนี่แหละ มันน่าสนใจเหมือนกันนะ ลองไปหาข้อมูลกันได้ค่ะ) นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำจากคนรอบ ๆ ข้างว่า เธอน่าจะไปไทเปสักครั้งนะเพราะที่นั้นเหมาะกับเธอ พอได้อ่านแล้วฉันก็ว่ามันเป็นที่ ๆ เหมาะกับเธอจริง ๆ เลยแหละ

 

(ชอบความพาไปตามร้านหนังสือและเครื่องเขียนของนักเขียน คนรักหนังสือไม่ควรพลาด)

ยิ่งอ่านก็ยิ่งหลงเสน่ห์ ไทเป ด้วยความที่นักเขียนไม่ได้พาเราไปเที่ยวเหมือนหนังสือไกด์บุ๊คทั่ว ๆ ไป แต่พาเราไปลัดเลาะตามตรอกซอกซอย (เธอหลงทาง) เพราะการหลงทางของนี่แหละมันทำให้เราค้นพบเส้นทางที่สวยงามในฉบับของเราเอง

จำได้ว่าครั้งหนึ่งฉันเคยขับรถหลงทางไปเจอเส้นสวนดอกไม้ที่สวยงามมาก ๆ ฉันว่าการหลงทางก็เป็นสีสันในชีวิตดีนะและไทเปเองก็คงเป็นที่ที่เหมาะอย่างยิ่งกับการเดินไปเรื่อย ๆ เพราะถือเป็นอีกเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นเมืองแห่งศิลปะแห่งหนึ่งเลย ว่าแล้วเราก็อยากไปเดินเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ เผื่อจะมีเรื่องมาเล่าให้ฟังกันบ้างเนอะ ^_^

 

(หมู่บ้านศิลปินบนเนิน หรือ Treasure Hill Artist Village เป็นสถานที่ที่ฉันต้องไปให้ได้เลย)